บทความล่าสุด

ชีส Cheese มีประโยชน์และอันตรายต่อร่างกาย อย่างไร

0

ชีส Cheese มีประโยชน์และอันตรายต่อร่างกาย อย่างไร

ชีส cheese เป็นอาหารที่คนมักนิยมนำไปประกอบอาหารได้หลายชนิด ไม่ว่าจะนำมาทำเป็นหน้าพิชซ่า ผักขมอบชีส เฟรนช์ฟรายส์ หรือนำมากินเปล่าๆ แต่ก็มีหลายๆ คน ที่กลัวในการกินชีส เพราะคิดว่ากินแล้วจะทำให้อ้วน แต่จริงๆแล้วถ้าเรารู้จักในการกิน กินให้ถูกต้อง พอดีกับปริมาณ เชื่อหรือว่าจะ ประโยชน์ของชีสนั้นมีมากมาย แต่ถ้าเรากินไม่ถูกวิธี ชีสก็จะส่งผลอัตรายต่อร่างกายได้เหมือนกัน

ชีส cheese คือ ผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากนม ไม่ว่าจะเป็น นมวัว นมแพะ นมแกะ หรือนมควาย แต่ละชนิดจะมีรสชาติและกลิ่นแตกต่างกันออกไป ชีสจึงเป็นแหล่งรวมของสารอาหาร วิตามิน และโปรตีนมากมาย ชีส 1 แผ่น ปริมาณ 28กรัม ให้พลังงานถึง 113 กิโลแคลอรี่ โปรตีน 6.8 กรัม ไขมัน 8 กรัม คาร์โบไฮเดรต 0.9 กรัม และมีแคลเซียม 200 มิลลิกรัม หรือเทียบกับนม 1 กล่อง

ชีสมีประโยชน์ต่อร่างกายอย่างไร

  • บำรุงกระดูกและฟันให้แข็งแรง เพราะชีสอุดมไปด้วยแคลเซียม ชีส 1 แผ่นเท่ากับนม 1 กล่อง
  • ช่วยบำรุงประสาท
  • ช่วยสร้างเม็ดเลือดแดง
  • ช่วยลดความหงุดหงิด ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย

ชีสมีอัตรายต่อร่างกายอย่างไร

  • ถ้าเราทานชีสในปริมาณที่เยอะเกินไปจะทำให้อ้วน
  • ถ้าเราเลือกทานชีสที่มีไขมันอิ่มตัวเยอะและก็ทานเยอะเกินปริมาณที่เหมาะสมก็จะทำให้ระดับคอเลสเตอรอลในเลือดสูงซึ่งจะส่งผลทำให้เกิดโรคหัวใจหรือหลอดเลือดได้

ข้อแนะนำ

  • ควรทานชีสไม่เกิน 2 แผ่นต่อวัน
  • ควรเลือกซื้อชีสที่มีไขมันต่ำ
  • คนที่แพ้นมวัวไม่ควรรับประทานเพราะอาจจะทำให้แพ้ได้

ชีส, cheese, ประโยชน์ของชีส, อันตรายจากชีส, ชีสมีประโยชน์และอันตรายอย่างไร,

เมื่อลูกไม่ยอมกินผัก 10เทคนิคดีๆ ที่จะเป็นตัวช่วยให้ลูกหันมากินผัก

0

เมื่อลูกไม่ยอมกินผัก 10เทคนิคดีๆ ที่จะเป็นตัวช่วยให้ลูกหันมากินผัก

เชื่อว่ามีพ่อแม่หลายคน ที่มีปัญหากลุ้มใจ เพราะลูกก็ไม่ยอมกินผัก วันนี้เรามีเทคนิคดีๆ ที่จะเป็นตัวช่วยให้ลูกของคุณหันมากินผักกันค่ะ

ผัก vegetable ถือว่าเป็นอาหารที่จำเป็นและสำคัญต่อร่างกายคนเราเป็นอย่างมาก เพราะในผักจะมีสารอาหารต่างๆมากมาย เช่น วิตามิน A วิตามิน C วิตามิน K เกลือแร่ แร่ธาตุ ใยอาหาร และสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งสารอาหารเหล่านี้ จะเป็นตัวช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกายเรา ทำให้ระบบต่างๆของร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และรวมถึงเป็นตัวช่วยกำจัดของเสียออกจากร่างกาย

เพราะฉะนั้น พ่อแม่จำเป็นจะต้องฝึกให้ลูกน้อยกินผักตั้งแต่เด็ก แต่เนื่องจากรสชาติของผักบางชนิดอาจจะมีรสชาติเป็นเอกลักษณ์ของมัน อาจจะมีกลิ่นฉุน กินแล้วเด็กรู้สึกว่าไม่อร่อย เด็กบางคนกินแล้วรู้สึกไม่ชอบ และอาจจะไม่ยอมกินผักอีกเลย แต่พ่อแม่อย่าพึ่งท้อนะคะ ค่อยๆฝึกกันค่ะ

10 เทคนิคดีๆ ที่จะเป็นตัวช่วยให้ลูกหันมากินผัก ดังนี้ค่ะ

  • เริ่มฝึกให้ลูกกินผักตั้งแต่ยังเด็ก เช่นซอยผักเป็นชิ้นเล็กๆผสมรวมกับอาหาร เพื่อเป็นการสร้างความเคยชินให้กับลูก
  • พ่อแม่ควรกินผักเป็นตัวอย่างให้ลูกเห็น และในแต่ละมื้ออาหารก็ควรจะมีผัก
  • เริ่มแรกที่ฝึกให้ลูกกินผัก ควรหลีกเลี่ยงผักที่มีกลิ่นฉุน หรือ รสชาติขม ควรหาผักที่มีรสชาติหวาน เช่น ฝักทอง แครอท เป็นต้น
  • หั่นผักเป็นชิ้นเล็กๆและต้มให้นิ่ม เพื่อให้ง่ายต่อการกินของลูก
  • หาอะไรมาจิ้มให้ลูกกินกับผัก เช่น น้ำสลัด มายองเนส เพื่อเป็นการดึงดูดให้ลูกเอาผักมาจิ้มกิน
  • พยายามเล่าให้ลูกฟัง ว่าผักนั้นมีประโยชน์ต่อร่างกายเราอย่างไรบ้าง ถ้าเราไม่กินผักจะเกิดอะไรขึ้นให้ลูกฟัง เพื่อเป็นการกระตุ้นให้เด็กอยากกินผัก
  • ห้ามพูดว่าผักมีรสชาติ ขม เพราะจะทำให้ลูกจำว่า ขม และจะต่อต้านไม่ยอมจะกินผัก
  • อาจจะนำผักมาดัดแปลงในการประกอบอาหาร เช่น นำผักไปชุบแป้งทอด
  • สามารถนำผักมาทำเป็นน้ำปั่นผสมกับผลไม่ให้ลูกกิน แต่ไม่ควรเลือกผักที่มีกลิ่นฉุน
  • ให้ลูกได้มีส่วนร่วมในการนำผักมาประกอบอาหาร เช่น ให้ลูกช่วยล้างผัก ช่วยจัดผัก หรือช่วยเก็บผักจากต้น

คุณพ่อคุณแม่ลองนำ 10 เทคนิคดีๆ นี้ไปใช้กับลูกดูนะคะ และที่สำคัญถ้าลูกยังไม่ยอมกิน พ่อแม่อย่าพึ่งไปบังคับลูกนะคะ ค่อยๆ ฝึกค่ะ

ลูกไม่กินผัก, ทำอย่างไรเมื่อลูกไม่ยอมกินผัก, เทคนิคช่วยให้ลูกกินผัก, เทคนิคดีๆช่วยให้ลูกกินผัก, วิธีทำให้ลูกกินผัก, ผัก, vegetable,

ประโยชน์ของโยเกิร์ต และโยเกิร์ตกินคู่กับอะไรถึงจะเพิ่มคุณภาพมากยิ่งขึ้น

0

ประโยชน์ของโยเกิร์ต และโยเกิร์ตกินคู่กับอะไรถึงจะเพิ่มคุณภาพมากยิ่งขึ้น

โยเกิร์ต Yogurt เป็นอาหารยอดนิยมสำหรับสาวๆ ที่รักสุขภาพ หรือ สำหรับคนที่ควบคุมน้ำหนัก แล้วรู้หรือไม่ว่า โยเกิร์ตนั้นมีประโยชน์อย่างไรบ้าง แล้วเราควรกินโยเกิร์ตคู่กับอะไรถึงจะเพิ่มคุณภาพได้มากยิ่งขึ้น

โยเกิร์ต ถือว่าเป็นอาหารที่ช่วยส่งเสริมคุณภาพ ซึ่งทำมาจากนม และมีการใส่โพรใบโอติก หมักด้วยจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ ทำให้มีรสชาติเปรี้ยว ซึ่งในโยเกิร์ต จะอุดมไปด้วยสารอาหารต่างๆ เช่น โปรตีน คาร์โบไฮเดรต ไขมัน และแคลเซียม

ประโยชน์ของโยเกิร์ต ดีต่อสุขภาพเราอย่างไรบ้าง

  • ปรับความสมดุลในร่างกาย เสริมภูมิคุ้มกัน และช่วยกระตุ้นระบบการขับถ่าย
  • เพิ่มแบคทีเรียดีในลำไส้ ซึ่งช่วยควบคุมความดันโลหิตไม่ให้สูงเกินไป
  • เสริมสร้างความแข็งแรงของกระดูกและฟัน เพราะในโยเกิร์ตอุดมไปด้วยแคลเซียม
  • ส่งเสริมสุขภาพสมอง
  • ป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือด
  • ช่วยควบคุมน้ำหนัก เพราะในโยเกิร์ตมีโปรตีน เมื่อทานแล้วรู้สึกอิ่มท้องได้นาน
  • ลดโอกาสเกินมะเร็งเต้านมสำหรับผู้หญิง และมะเร็งลำไส้สำหรับผู้ชาย
  • สามารถกินโยเกิร์ตแทนนมได้ สำหรับคนที่ทานนมไม่ได้

อาหารที่ควรกินคู่กับโยเกิร์ต แล้วไปช่วยส่งเสริมคุณภาพได้มากยิ่งขึ้น มีดังนี้

  • โยเกิร์ตกินคู่กับตระกูลถั่วและธัญพืชต่างๆ นอกจากได้ประโยชน์แล้ว ยังช่วยทำให้อิ่มท้องได้นานด้วย เหมาะสำหรับคนที่ควบคุมน้ำหนัก
  • โยเกิร์ตกินคู่กับข้าวโอ๊ต ช่วยลดไขมันในเลือด
  • โยเกิร์ตกินคู่กับซีเรียล ช่วยบำรุงกระดูก
  • โยเกิร์ตกินคู่กับอะโวคาโด้ จะไปช่วยในเรื่องการบำรุงสายตา
  • โยเกิร์ตกินคู่กับกล้วย ช่วยควบคุมความดันโลหิต
  • โยเกิร์ตกินคู่กับลูกพรุน ช่วยระบายท้องได้ดี เหมาะสำหรับคนที่ท้องผูก
  • โยเกิร์ตกินคู่กับลูกเบอรี่ ช่วยบำรุงผิวพรรณให้ดูดสดใส และช่วยบำรุงสายตา

ข้อควรระวังในการกินโยเกิรต์

  • ไม่ควรกินโยเกิร์ตที่มีส่วนผสมน้ำตาลเยอะ
  • การเลือกซื้อโยเกิร์ต ควรอ่านฉลากก่อน ว่ามีส่วนผสมอะไรบ้าง มีน้ำตาลหรือเปล่า มีแคลเซียมมากน้อยแค่ไหน
  • เลือกกินโยเกิร์ตตามธรรมชาติ ไม่ควรกินที่มีการผสมปรุงแต่ง
  • ไม่ควรกินโยเกิร์ตแทนอาหารทั้ง 3 มื้อ เพราะจะทำให้ได้รับสารอาหารจากแหล่งอาหารน้อย

ประโยชน์โยเกิร์ต, โยเกิร์ต, Yogurt, โยเกิร์ตควรกินคู่กับอะไร, อะไรควรกินคู่กับโยเกิร์ต, ข้อควรระวังกินโยเกิร์ต,

อาหารที่ควรห้ามสำหรับลูกน้อยวัย 1-3 ขวบ

0

อาหารที่ควรห้ามสำหรับลูกน้อยวัย 1-3 ขวบ

พ่อแม่ส่วนใหญ่มักจะเป็นกังวลว่า อาหารชนิดไหนบ้าง ที่ห้ามสำหรับลูก วันนี้เรามีคำตอบมาให้ค่ะ ว่ามีอาหารชนิดไหนบ้างที่ห้ามให้เด็กอายุ 1-3 ขวบ รับประทาน เราไปดูกันค่ะ

อาหารที่ควรห้ามสำหรับลูกน้อยวัย 1-3 ขวบ มีดังนี้

  • ลูกอม ลูกอมเป็นสิ่งที่ควรห้ามอย่างยิ่งสำหรับเด็กเล็ก นอกจากจะทำให้เด็กฟันผุแล้ว อาจจะทำให้ติดคอเด็กได้ เพราะเด็กเล็กยังอมไม่เป็น
  • ช็อกโกแลต เป็นสิ่งที่ต้องห้ามเหมือนกับลูกอม เพราะจะทำให้เด็กฟันผุ และอาจจะทำให้เด็กติดรสหวานได้
  • น้ำอัดลม นอกจากไม่มีประโยชน์ต่อลูกน้อยแล้ว จะทำให้เด็กเป็นโรคอ้วนได้
  • ไข่ดิบ หรือของดิบต่าง ๆ เพราะอาจจะทำให้ติดเชื้อยแบคทีเรียได้
  • ขนมขบเคี้ยว ที่มีผงชูรส เพราะนอกจากไม่ได้มีประโยชน์ต่อลูกน้อยแล้ว ยังทำให้เด็กทานข้าวได้น้อยลง เพราะกินขนมเหล่านี้ไปทำให้อิ่มท้อง
  • ถั่วลิสง เด็กอาจจะเผลอกลืนเมล็ดถั่วได้ และเด็กบางคนอาจจะแพ้ถั่ว
  • ผลไม้ขนาดเล็ก เช่น องุ่น เพราะอาจจะทำให้ติดคอได้ ถ้าจะให้กินผู้ปกครองต้องดูแลอย่างใกล้ชิด
  • เครื่องดื่มหรือขนมที่ผสมคาเฟอิน เป็นอาหารที่ควรหลีกเลี่ยงอย่างยิ่งสำหรับเด็ก
  • บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป เพราะในบะหมี่จะมีส่วนผสมของเกลือ และผงชูรส ยังไม่เหมาะสำหรับเด็กวัยนี้

อาหารต้องหามสำหรับเด็ก, อาหารต้องห้ามสำหรับเด็ก 1-3ขวบ, อาหารไม่ควรให้เด็กกิน,

เลี้ยงลูกอย่างไร ให้ลูกมีความสุข และเติบโตอย่างมีคุณภาพ

เลี้ยงลูกอย่างไร ให้ลูกมีความสุข และเติบโตอย่างมีคุณภาพ

การเลี้ยงลูกให้มีความสุขและเติบโตโดยมีคุณภาพนั้นไม่ใช่เรื่องที่ง่าย แต่ก็ไม่ได้ยากเกินไปจนทำไม่ได้ เพียงแต่ใส่ใจและมีเวลากับลูก เรามาดูกันว่า มีวิธีไหนบ้าง ในการเลี้ยงลูก ให้ลูกมีความสุข และเติบโตอย่างมีคุณภาพ

เลี้ยงลูกอย่างไร ให้ลูกมีความสุข และเติบโตอย่างมีคุณภาพ ทำได้ดังนี้

  • แสดงความรักโดยการกอดลูก เพราะการสวมกอดลูกช่วยสร้างความรู้อบอุ่น และความผูกพันแก่ลูก เราควรจะเริ่มกอดลูกตอนที่ลูกยังเด็กๆ เพราะถ้าเด็กโตขึ้น มักจะไม่ค่อยชอบให้กอดเหมือนตอนยังเด็ก
  • ควรหาเวลาร่วมเล่นกับลูกบ้าง หรือหากิจกรรมทำร่วมกัน เช่น เล่นของเล่นด้วยกัน หรือวาดรูป ปั้นดินน้ำมันเป็นต้น นอกจากจะเป็นการเสริมสร้างจิตนาการให้กับลูกแล้ว ลูกจะรู้สึกมีความสุขและสนุกสนานร่วมกับพ่อแม่
  • ไม่ควรจะตำหนิลูกมากจนบ่อยเกินไป เช่น เรื่องเล็กๆน้อยๆ เพราะบางครั้งจะทำให้ลูกรู้สึกกำลังถูกจับผิดตลอดเวลา
  • ไม่ควรจะเข้มงวดกับลูกมากเกินไป เพราะการที่พ่อแม่เข้มงวดกับลูกเกินไป อาจจะทำให้เด็กเกิดการต่อต้าน และอาจจะนำไปสู่ความสัมพันธ์ที่ไม่ดีเกิดขึ้นได้
  • อย่าเอาความฝันของตัวเองไปยัดเยียดให้ลูก ควรปล่อยให้ลูกได้เลือกในสิ่งที่เค้าชอบหรือเค้าถนัด พ่อแม่แค่คอยเป็นกำลังใจ และให้คำปรึกษาแก่ลูกก็พอ
  • อย่าไปตั้งความความหวังหรือคาดหวังในตัวลูกให้มากเกิน จนกลายเป็นการสร้างความกดดันให้กับลูก จนทำให้ลูกรู้ไม่เป็นตัวของตัวเอง และนำไปสู่ให้ลูกไม่มีความสุข
  • ควรฟังความคิดเห็นของลูก และบางเรื่องควรที่จะให้ลูกได้เป็นคนตัดสินใจเองบ้าง
  • อย่านำลูกไปเปรียบเทียบกับลูกคนอื่น เพราะเด็กบางคนไม่เหมือนกัน จะส่งผลให้ลูกรู้สึกขาดกำลังใจ รวมทั้งทำให้เกิดการขาดความมั่นใจในตัวเอง
  • ปล่อยให้ลูกมีประสบการณ์และเรียนรู้ด้วยตัวเอง เรื่องบางเรื่องก็ต้องปล่อยให้ลูกได้เรียนรู้ด้วยตัวเองบ้าง โดยที่พ่อแม่ไม่ได้ร่วมอยู่กับเหตุการณ์นั้นๆ เช่น ปล่อยให้ลูกได้ไปทัศนศึกษากับโรงเรียน เป็นต้น
  • ฝึกให้ลูกรู้จักการใช้เงิน โดยพ่อแม่สามารถอธิบายให้รู้เห็นถึงคุณค่าการใช้เงิน
  • และที่สำคัญทำตัวให้ลูกไว้วางใจ กล้าที่จะเล่าให้พ่อแม่ฟังทุกเรื่อง บางครั้งเราก็ต้องเลี้ยงลูกให้เหมือนเพื่อน มีอะไรก็สามารถเล่าสู่กันฟัง ไววางใจซึ่งกันและกัน

วิธีเลี้ยงลูก, เลี้ยงลูกให้ถูกวิธี, เลี้ยงลูกอย่างไร, เลี้ยงลูกอย่างไรให้มีความสุขและมีคุณภาพ, เลี้ยงลูกให้มีคุณภาพ,

วิธีทำปีกไก่ทอดพริกเกลือ พร้อมส่วนผสมและวิธีทำ

0

วิธีทำปีกไก่ทอดพริกเกลือ พร้อมส่วนผสมและวิธีทำ

วิธีทำปีกไก่ทอดพริกเกลือ พร้อมส่วนผสมและวิธีทำ จากร้าน A Seven รายการครัวคุณต๋อย เป็นเมนูที่น่าลองทำตามมากๆ ค่ะ กินกับเหนียว หรือ ข้าวสวยร้อนๆ ก็ดูเข้ากัน เราลองไปทำตามสูตร ร้าน A Seven จากรายการครัวคุณต๋อยกันดูนะคะ ส่วนผสมและวิธีทำดังนี้ค่ะ

ส่วนผสมการทำปีกไก่ทอดพริกเกลือ

  • ปีกไก่ ส่วนกลาง
  • พริกไทยเม็ด
  • รากผักชี
  • กระเทียมจีน
  • เกลือ
  • พริกแห้ง หั่นเป็นชิ้นบางๆ
  • พริกไทยป่น
  • น้ำตาลทราย

วิธีทำปีกไก่ทอดพริกเกลือ

  • นำพริกไทยเม็ดมาโขรกรวมกับรากผักชีและกระเทียม โขรกให้ละเอียด แล้วตามด้วยเกลือ โขรกให้ละเอียดเข้ากัน
  • เสร็จแล้วนำมาคลุกกับปีกไก่ แล้วนำไปพักไว้ในตู้เย็น 2 ชั่วโมง
  • เจียวกระเทียม โดยสับกระเทียมให้ละเอียด ใช้ไฟอ่อน กระเทียมเหลืองแล้วตักขึ้น พักสะเด็ดน้ำมัน
  • นำพริกแห้งที่หั่นแล้ว ลงไปทอด แล้วรีบนำขึ้น พักสะเด็ดน้ำมัน
  • ปีกไก่เมื่อแช่ในตู้ได้ 2 ชั่วโมงแล้ว นำไปนึ่งประมาณ 15 นาที เพื่อให้หนังไก่ตึง และสุกทั่วถึง เวลาทอดจะไม่อมน้ำมัน
  • นึ่งเสร็จแล้ววางให้เย็นก่อน แล้วนำไปทอดในกระทะ โดยให้น้ำมันเดือดจัด
  • ทอดจนสุกเหลืองแล้วตักขึ้นไปพักให้สะเด็ดน้ำมัน
  • ปรุงรสด้วย พริกไทยป่น เกลือ น้ำตาล พริกแห้งที่ทอดแล้ว และกระเทียมเจียว มาคลุกรวมกัน แล้วนำไปคลุกกับปีกไก่ที่ทอดเสร็จแล้ว

เสร็จเรียบร้อยแล้วค่ะ ปีกไก่ทองพริกเกลือ สูตรร้าน A Seven จากรายการครัวคุณต๋อย

รายการครัวคุณต่อยจะออกอากาศทุกวันจันทร์-วันศุกร์ เวลา 13.40-14.10

Credit : รายการครัวคุณต๋อย

ครัวคุณต๋อย, รายการครัวคุณต๋อย, ร้าน A Seven, ปีกไก่, ปีกไก่ทอด, ปีกไก่ทอดพริกเกลือ,

หลับอย่างไรให้หน้าเด็ก ผิวพรรณดี ไม่แก่ก่อนวัย

หลับอย่างไรให้หน้าเด็ก ผิวพรรณดี ไม่แก่ก่อนวัย

สมัยนี้ใครๆก็อยากหน้าเด็ก หน้าเด้ง หน้าใส กันทุกคน ทุกคนพยามหาวิธีกันต่างๆนาๆ เพื่อให้ตัวเองเป็นเด็กยืนยงคงกระพัน ไม่ว่าจะสรรหาครีมดีๆ ราคาแพงๆ เพื่อมาบำรุงตัวเอง แต่รู้มั้ยคะ มีวิธีหนึ่งที่ไม่ต้องลงทุนอะไรเลย ไม่ต้องเสียเงินแม้แต่บาทเดียว นั่นก็คือ การนอนหลับ แล้วการนอนหลับแบบไหน อย่างไรละ ที่จะทำให้เราหน้าเด็ก ไม่แก่ก่อนวัยอันควร แถมได้สุขภาพที่ดีอีกด้วย เราไปดูการค่ะ

การนอนหลับ ถือว่า เป็นเรื่องสำคัญอันดับหนึ่งของร่างกายเรา เพราะร่างกายเราจะมีฮอร์โมนอยู่ด้วยกัน 2 ช่วง คือ ช่วงกลางวันและกลางคืน หรือเรียกกันว่า โกรทฮอร์โมน Growth hormone

กลางคืน ก็คือการนอนหลับในเวลากลางคืน ซึ่งโกรทฮอร์โมนนี้จะเป็นฮอรโมนที่สำคัญมากสำหรับเด็ก เป็นฮอร์โมนในการเจริญเติบโต แต่สำหรับผู้ใหญ่เป็นฮอร์โมน เป็นที่ช่วยชะลอความแก่ ช่วยในการซ่อมแซม ช่วยให้หน้าตึง ไม่แก่ ดูเด็กลง บำรุงผิวพรรณ เล็บ เส้นผม และรวมไปถึงการบำรุงกระดูก ซึ่งฮอร์โมนตัวนี้จะทำงานตั้งแต่ 5 ทุ่มจนถึงตี 2 ครึ่ง แต่จะทำงานได้ดี หรือเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อมีการนอนหลับลึกเท่านั้น เพราะฉะนั้นเราควรจะเข้านอนห้ามเกิน 4 ทุ่ม เพื่อที่จะได้หลับลึก

กลางวัน การนอนหลับกลางวันควรจะนอนในช่วงบ่ายโมง หลังจากรับประทานอาหารเที่ยงเสร็จ และควรจะนอนแค่ ครึ่งชั่วโมงถึงหนึ่งชั่วโมงเท่านั้น ซึ่งเรียกว่าเป็นการนอนหลับตื้น จะช่วยในเรื่องการพักผ่อนสมอง จะส่งผลดีต่อคลื่นสมองของเรา ทำให้ช่วยในเรื่องความจำ ป้องกันเป็นอัลไซเมอร์ได้ด้วย

แต่การนอนของแต่ละคนก็จะไม่เหมือนกัน เพราะร่างกายของแต่ละคนจะมีระบบการฟื้นฟูของร่างกายที่แตกต่างกันออกไป บางคนอาจจะใช้เวลาในการนอนแค่ 6-7 ชั่วโมง แต่สำหรับบางคนอาจจะใช้เวลาในการนอน 8 ชั่วโมง ถึงจะเพียงพอกับความต้องการของร่างกาย

วิธีสังเกตดูว่าเรานอนเพียงพอหรือไม่ สังเกตได้ง่ายๆ คือ ถ้าตื่นนอนมาเรารู้สึกสดชื่นกระปรี้กระเปร่า นั่นแสดงว่าร่างกายเราได้มีการนอนหลับอย่างเพียงพอ แต่ถ้าเราตื่นมาแล้วรู้สึกไม่สดชื่น ซึมๆ ไม่อยากตื่น นั่นเป็นเพราะว่าร่างกายเรามีการนอนหลับที่ไม่เพียงพอนั่นเอง

การเตรียมตัวในการนอนหลับ เพื่อให้หลับได้ง่ายและหลับสบาย

  • งดเล่นโทรศัพท์มือถือก่อนเข้านอนอย่างน้อยให้ได้ ครึ่งชั่วโมง
  • ปิดทีวีและมือถือ
  • สวดมนต์
  • นั่งสมาธิ
  • ฟังเพลงเบาๆ
  • ไม่คิดเรื่องงาน เรื่องเครียด พยายามใช้สมองให้น้อยที่สุด
  • ควรเข้านอนไม่เกิน 4 ทุ่ม

การนอนหลับที่ดี, หลับอย่างไรให้หน้าเด็ก, หลับอย่างไรไม่ให้แก่, นอนหลับ, โกรทฮอร์โมน, Growth hormone, ฮอร์โมนในการนอนหลับ,

วิธีทำปลาดุกทอดกระเทียม พร้อมส่วนผสมและวิธีทำ

0

วิธีทำปลาดุกทอดกระเทียม พร้อมส่วนผสมและวิธีทำ

วิธีทำปลาดุกทอดกระเทียม พร้อมส่วนผสมและวิธีทำ จากร้านน้อมจิตไก่ย่าง รายการครัวคุณต๋อย ออกอากาศวันที่ 27 ก.ค 64 เป็นเมนูที่เห็นแล้วน่านำมาทำตามมากๆ และเป็นเมนูที่ทำง่าย เหมาะที่จะกินกับข้าวเหนียวร้อนๆ หรือ ข้าวสวยร้อนๆ ก็ได้ค่ะ เราไปดูส่วนผสมและวิธีทำ ตามร้าน น้อมจิตไก่ย่างกันค่ะ

ส่วนผสมการทำปลาดุกทอดกระเทียม

  • ปลาดุก ขนาด 5-6 ตัวต่อกิโลกรัม
  • พริกไทยป่นอย่างดี
  • กระเทียม ตำกระเทียมให้แตก
  • ซอสปรุงรส
  • แป้งเอนกประสงค์
  • น้ำมันพืช

วิธีทำปลาดุกทอดกระเทียม

  • นำปลาดุกไปล้างทำความสะอาด
  • บั้งปลาดุกให้ถึงกระดูก เพื่อที่หมัก ด้วยกระเทียม พริกไทยป่น ซอสปรุงรส แป้งเอนกประสงค์ คลุกให้เข้ากัน
  • หลังจากหมักเสร็จแล้ว นำไปแช่ในตู้เย็นประมาณ 1 ชั่วโมง
  • หลังจากนั้นนำกระทะตั้งไฟ ใส่น้ำมัน ใช้ไฟปานกลาง
  • น้ำมันร้อนแล้วนำปลาลงไปทอด ทอดให้สุกเหลือง ตักออกจากกระทะ แล้วนำกระเทียมที่เหลือจากการหมักลงไปทอด ให้พอเหลือง เพื่อนำมาโรยบนปลาที่ทอดเสร็จแล้ว

เสร็จเรียบร้อยแล้วค่ะ ไปทำตามดูกันนะค่ะ

รายการครัวคุณต่อยจะออกอากาศทุกวันจันทร์-วันศุกร์ เวลา 13.40-14.10

Credit : รายการครัวคุณต๋อย

ครัวคุณต๋อย, รายการครัวคุณต๋อย, ร้านน้อมจิตไก่ย่าง, ปลาดุก, ปลาดุกทอด, ปลาดุกทอดกระเทียม, วิธีทำปลาดุกทอดกระเทียม,

วิธีทำไข่เจียวกรอบๆ พร้อมส่วนผสมและวิธีทำ

0

วิธีทำไข่เจียวกรอบๆ พร้อมส่วนผสมและวิธีทำ

วิธีทำไข่เจียวกรอบๆ พร้อมส่วนผสมและวิธีทำ ร้านอาหารเดือนล้อม รายการครัวคุณต๋อย ขึ้นชื่อว่าเมนูไข่เจียวกินตอนไหนก็อร่อย กินได้บ่อย กินอร่อย ไม่เบื่อกันเลยจร้า ปกติแล้วเราแค่เจียวไข่กันแบบธรรมดาๆ วันนี้เราลองไปทำไข่เจียวกรอบ ๆตามสูตรร้านอาหารเดือนล้อม กันดูค่ะ เห็นแล้วหน้ากินมากๆ ไปดูส่วนผสมและวิธีทำกันค่ะ

ส่วนผสม ไข่เจียวกรอบ

  • ไข่ไก่สด 3 ฟอง ถ้าไข่ไม่สดจะไม่กรอบ
  • หมูสันนอกสับ
  • หอมหัวใหญ่ซอยเป็นชิ้นบางๆ
  • ต้นหอม หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ
  • น้ำมันพืช
  • น้ำมันหอย
  • ซีอิ้วขาว
  • พริกไทยอย่างดี
  • แป้งทอดกรอบ
  • น้ำต้มสุก ช่วยทำให้ไข่เจียวฟู
  • พริกแดงซอยเป็นชิ้นบางๆ สำหรับโรยหน้าไข่เจียว
  • ผักชี สำหรับโรยหน้าไข่เจียว

วิธีทำไข่เจียวกรอบ

  • นำส่วนผสมมารวมกัน หอมหัวใหญ่ที่ซอยแล้ว ใส่น้ำมันหอย พริกไทย ซีอิ้วขาว และแป้งทอดกรอบ ต้นหอม ไข่ไก่ และน้ำต้มสุก ตีคนให้เข้ากัน
  • นำกระทะตั้งไฟ ใส่น้ำมันเยอะๆ ใช้ไฟแรง ให้น้ำมันร้อนจัด
  • นำไข่ลงไปเจียว โดย ยกมือขึ้นให้สูงสะบัดมือเป็นวงกลม เทไข่ใส่ในกระทะ
  • ทอดจนไข่เป็นสีเหลือง แล้วกลับด้าน ทอดให้เหลืองแล้วตักใส่กระชอนให้สะเด็ดน้ำมัน
  • ตักใส่จาน แล้วแต่งหน้าด้วย พริกแดงและผักชี แค่นี้เราก็ได้ไข่เจียวกรอบๆ กินกับข้าวร้อนๆ กันแล้วจ้า

รายการครัวคุณต่อยจะออกอากาศทุกวันจันทร์-วันศุกร์ เวลา 13.40-14.10

Credit : รายการครัวคุณต๋อย

ครัวคุณต๋อย, รายการครัวคุณต๋อย, ไข่เจียว, ไข่เจียวกรอบ, วิธีทำไข่เจียวกรอบๆ, ร้านอาหารเดือนล้อม,

วิธีทำ ลูกชิ้นกุ้ง พร้อมส่วนผสมและวิธีทำ

0

วิธีทำ ลูกชิ้นกุ้ง พร้อมส่วนผสมและวิธีทำ

วิธีทำ ลูกชิ้นกุ้ง พร้อมส่วนผสมและวิธีทำ จากร้านซ้งเสรีทอง รายการครัวคุณต๋อย ออกอากาศวันที่ 18 ต.ค 2564 สำหรับคนที่ชอบกินลูกชิ้น หรืออยากลองทำลูกชิ้นกินเอง สามารถทำตามกันดูได้นะคะ เราไปดูส่วนผสมและวิธีทำลูกชิ้นกุ้งตามสูตรของร้าน ซ้งเสรีทองกันค่ะ

ส่วนผสม การทำลูกชิ้นกุ้ง

  • กุ้งแช่บ๊วยขนาดไซส์กลาง 3 กิโลกรัม
  • มันหมูเปลวหมู 1 กิโลกรัม
  • พริกไทยป่น 25 กรัม
  • ไข่ไก่ 3 ฟอง
  • เกลือ 45 กรัม
  • น้ำตาลทราย 150 กรัม
  • แป้งมัน 300 กรัม
  • แป้งสาลี 300 กรัม
  • น้ำมันสำหรับไว้ทอด

วิธีทำ ลูกชิ้นกุ้ง สูตรร้านซ้งเสรีทอง

  • นำกุ้งไปบดรวมกับมันเปลวหมู
  • หลังจากนั้นตามด้วยส่วนผสม พริกไทยป่น ไข่ไก่ เกลือ น้ำตาลทราย แป้งมัน และแป้งสาลี
  • คลุกผสมให้เข้ากัน
  • หลังจากนั้นนำมานวดต่อประมาณ 30 นาที เพื่อให้มันเหนียว
  • นำมาปั้นเป็นกลมๆ
  • นำกระทะใส่น้ำมันตั้งไฟ ใช้ไฟปานกลาง
  • ใส่ลูกชิ้นที่ปั้นไว้แล้วลงไปทอด ทอดจนเป็นสีเหลืองทอง ตักขึ้นจากกระทะ
  • วางให้สะเด็ดน้ำมัน นำไปกินกับน้ำจิ้มอร่อยๆได้เลยคะ

เสร็จเรียบร้อยแล้วคะ สำหรับคนที่อยากจะลองทำลูกชิ้นกินเอง ก็สามารถนำไปตามตามสูตรนี้ได้เลยนะคะ ส่วนผสมขึ้นอยู่กับปริมาณการทำนะคะ ว่าจะทำเยอะหรือทำน้อย

รายการครัวคุณต่อยจะออกอากาศทุกวันจันทร์-วันศุกร์ เวลา 13.40-14.10

Credit : รายการครัวคุณต๋อย

ครัวคุณต๋อย, รายการครัวคุณต๋อย, ร้านซ้งเสีทอง, ครัวคุณต๋อยออกอากาศ 18 ต.ค 64, ลูกชิ้นกุ้ง, วิธีทำลูกชิ้นกุ้ง, ลูกชิ้น, วิธีทำลูกชิ้น,