สระผมให้ถูกหลัก ลดปัญหาผมร่วง ผมบาง และศีรษะล้าน

0

สระผมให้ถูกหลัก ลดปัญหาผมร่วง ผมบาง และศีรษะล้าน

การที่เราสระผมไม่ถูกวิธี หากทำไปเรื่อย ๆ ก็จะทำให้ผมร่วง หรืออาจจะทำให้ศีรษะล้านเป็นหย่อมๆ ได้ และรู้หรือไม่ว่าการที่เราสระผมบ่อยๆ ก็อาจทำให้ผมหลุดร่วงได้ง่ายเหมือนกัน

และปัญหาผมร่วง ผมบางและศีรษะล้าน มักจะเกิดกับผู้ชายมากกว่า เพราะว่ารากผมของผู้ชาย จะไวต่อออร์โมนเพศชายที่ชื่อว่าแอนโดรเจน จึงทำให้เส้นผมของผู้ชายจึงมีอายุสั้นกว่าปกติ ส่วนผู้หญิงก็มักจะเป็นช่วงหมดประจำเดือน

โดยปกติแล้วเส้นผมคนเรา จะหยุดการเจริญเติบโตร้อยละ 10-15 เส้นต่อวัน และจะหลุดร่วงออกไปเอง แต่ถ้าหากวันหนึ่งมีผมร่วงเกิน 50 เส้น ถือว่าผิดปกติ เพราะฉะนั้น การที่เราสระผมให้ถูกวิธี ก็เป็นการช่วยลดปัญหาผมร่วง ผมบาง ศีรษะล้านได้เหมือนกัน

          การสระผมให้ถูกวิธีคือเพื่อลดปัญหาผมร่วง

  • ควรเลือกยาสระผมที่เหมาะกับเราก่อน เพราะสภาพเส้นผมและหนังศีรษะแต่ละคนไม่เหมือนกัน
  • ก่อนสระผมควรจะหวีผมก่อน เพื่อช่วยลดการขาดร่วงของเส้นผมในขณะสระ
  • ก่อนจะใช้ยาสระผม แนะนำให้ล้างผมด้วยน้ำเปล่าก่อน เพื่อเป็นการล้างสิ่งสกปรกที่เกาะบนเส้นผม
  • ไม่ควรบีบยาสระผมลงบนศีรษะโดยตรง
  • ใช้ครีมนวดลงแต่ปลายผม
  • ไม่เกาหรือขยี้หนังศีรษะแรงๆ เพราะจะเป็นการทำลายรากผมและหนังศีรษะ
  • ล้างยาสระผมให้สะอาด ไม่ให้มีสารเคมีตกค้างที่หนังศีรษะ
  • หลังจากสระเสร็จแล้วควรเช็ด  หรือ เป่าให้ผมแห้ง เพื่อป้องกันความอับชื้นของหนังศีรษะ

นอกจากสระผมถูกวิธีแล้ว การดูแลเส้นผมภายใน ก็ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญเหมือนกัน เช่นการกินอาหาร จำพวกโปรตีน เช่น นม ไข่ เนื้อปลา รวมถึงธัญญพืช เมล็ดถั่วต่างๆ และผักใบเขียว เป็นต้น และถ้าทำตามวิธีนี้แล้ว ยังพบปัญหาผมร่วงในปริมาณผิดปกติ ก็ควรไปพบแพทย์ค่ะ

สระผม, ผมบาง, วิธีสระผม, ศีรษะล้าน, ผมร่วง, ผมน้อย, ปัญหาผมร่วง,

ดู รายการพบหมอศิริราช ย้อนหลัง ตอน โรคแพ้ภูมิตัวเอง หรือ SLE

0

ดู รายการพบหมอศิริราช ย้อนหลัง ตอน โรคแพ้ภูมิตัวเอง หรือ SLE ที่หลายคนเป็นแล้ว แต่ไม่ดูแลตัวเอง ปล่อยปละละเลย ไม่รีบทำการรักษา อัตรายอาจถึงชีวิตได้

โรคแพ้ภูมิตัวเอง Systemic Lupus Erythematosus) (SLE) เป็นโรคภูมิต้านตนเองชนิดหนึ่ง ที่เกิดจากการระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายทำงานผิดปกติ หรือเม็ดเลือดขาวทำงานผิดปกติ ทำการโจมตีอวัยวะต่างๆของร่างกาย  

อาการของโรคแพ้ภูมิตัวเอง หรือ SLE มีดังนี้

  • อาการจะเกิดขึ้นทางผิวหนัง เช่น ผมร่วง มีแผลในช่องปากที่เพดาน ส่วนใหญ่จะไม่มีอาการเจ็บ
  • แพ้แสง เพราะเวลาถูกแสงแดดจะมีปฏิกิริยามากกว่าปกติ
  • มีผื่นขึ้นที่บริเวณโหนกแก้มและจมูกรูปร่างคล้ายกับผีเสื้อ
  • มีอาการปวดตามข้อ ข้ออักเสบ บวม แดง ร้อน
  • มีอาการอ่อนเพลีย เบื่ออาหาร
  • รวมถึงอาการที่อวัยวะภายใน เช่น หัวใจ ปอด ไต ระบบประสาท

การรักษาโรคแพ้ภูมิตัวเอง หรือ SLE

การรักษา โดยแพทย์ให้ยาลดการอักเสบของข้อ ลดการปวด และยังมียาช่วยในการปรับของเม็ดเลือดขาวให้ทำงานได้เหมือนปกติมากยิ่งขึ้น ซึ่งยากลุ่มนี้ได้แก่ยากลุ่มสเตียรอย และยากดภูมิ

สำหรับผู้ป่วยที่มีอาการข้อติดขัด ปวดข้อ ข้อบวม สามารถแช่มือในน้ำอุ่น ขยับข้อมือในน้ำอุ่น เพราะจะช่วยให้ข้อลดความฝืด ลดอาการปวดลงได้

วิธีปฏิบัติหรือดูแลตัวเองของผู้ป่วยโรคแพ้ภูมิตัวเอง หรือ SLE คือ

  • ต้องทานยาให้ครบตามแพทย์แนะนำ ไม่ควรหยุด เพิ่ม หรือลด ขนาดยาเอง
  • ลดการถูกแสงแดดให้น้อยลง เพราะแสงแดดจะกระตุ้นให้ผิวหนังกำเริบมากขึ้น
  • ต้องพักผ่อนให้เพียงพอ
  • สำหรับผู้ป่วย แต่ต้องการจะมีลูก ควรจะปรึกษาแพทย์ก่อน เพราะการตั้งครรภ์อาจทำให้โรคกำเริบได้

รายการพบหมอศิริราช, หมอศิริราช, ดู, ย้อนหลัง, รายการ, ดูย้อนหลัง, ตอนล่าสุด, ทุกตอน, คลิปวีดีโอ, แพ้ภูมิ, ภูมิแพ้, cแพ้ภูมิตัวเอง, ภูมิแพ้ตัวเอง, ภูมิแพ้,

หลักการทำงานของยาแก้ปวด

0

เชื่อว่าทุกคนเคยรับประทานยาแก้ปวด แต่ทราบหรือไม่ว่ายาแก้ปวดทำงานยังไง แล้วมันรู้ได้อย่างไรว่าเราปวดตรงไหน

ยาแก้ปวดที่เราใช้โดยทั่วไปจะแบ่งออกเป็น 2 ประเภทด้วยกัน คือ ยาพาราเซตามอล และ กลุ่มยาเอ็นเสดNSAIDs หรือยาในกลุ่มต้านการอักเสบที่ไม่ใช่ยาสเตียรอยด์

สาเหตุความเจ็บปวดมันเกิดขึ้นได้ยังไงบ้าง

ในร่างกายของคนเราจะมีเครื่องตรวจความเจ็บปวด เป็นเส้นประสาทพิเศษที่มีชื่อว่า Nociceptor ซึ่งมันจะติดตั้งอยู่เกือบจะทุกส่วนของร่างกายเรา และก็จะทำให้สามารถรับรู้ความเจ็บปวดได้ทั้งภายในและภายนอก เมื่อร่างกายของเราส่วนใดส่วนหนึ่งถูกกระตุ้นขึ้นมา หรือทำให้เซลล์ได้รับความเสียหายอย่างใดอย่างหนึ่ง เช่น นิ้วถูกมีดบาด หรือมือไปโดนของร้อน Nociceptor ก็จะส่งสัญญาณไฟฟ้าไปยังสมองเพื่อเตือนให้เรารับรู้ได้ว่า มีอันตรายเกิดขึ้นกับร่างกายของเรา ที่จะทำให้เรารับรู้ได้ถึงความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นกับร่างกายของเรา และด้วยเหตุผลนี้เอง ทำให้เราต้องกินยาแก้ปวดเพื่อบรรเทาความเจ็บปวดให้กับตัวเอง

ยาแก้ปวดทำงานยังไง วิธีทำงานของยาแก้ปวดคือ เมื่อเซลล์ของคนเราได้รับความเสียหาย มันจะปล่อยเอนไซม์ ที่ชื่อว่า Cyclooxygenase ออกมา สารนี้ก็จะผลิตสาร Prostaglandin และสารตัวนี้ก็จะส่งสัญญาณความเจ็บปวดบอกต่อไปยังสมอง ทำให้เรารู้สึกเจ็บปวดเมื่อเราทานยาแก้ปวดเข้าไปมันก็จะไปช่วยลดการหลั่งของสาร Prostaglandin ทำให้เราไม่รู้สึกเจ็บปวด หรือ เจ็บปวดน้อยลง แต่ไม่ได้หมายความว่าอาการเจ็บปวดจะหายไปเลย สิ่งที่เกิดขึ้นจริงๆแล้วก็คือ มันแค่ไปจับสัญญาณไม่ให้ไปที่สมอง หรือแค่ทำให้เราลืมไปชั่วขณะหนึ่งแค่นั้นเอง

หลายคนมักจะสงสัยกันว่ายาแก้ปวดมันรู้ได้ยังไง จะไปช่วยแก้ปวดตรงจุดไหนบ้างหลังจากที่เรากินยาเข้าไป คำตอบก็คือ ยาแก้ปวดไม่สามารถรับรู้ได้หรอกค่ะ ว่าเราเจ็บหรือปวดตรงไหนบ้าง เพียงแต่ว่าเมื่อเราทานยาแก้ปวดเข้าไปยาก็จะเข้าไปในกระแสเลือดแล้วกระจายไปยังส่วนต่างๆของร่างกาย ทั้งในส่วนที่เรารู้สึกเจ็บและไม่เจ็บ จึงทำให้ส่วนที่เราเจ็บ เจ็บน้อยลง

Credit : จากรายการ Dis you Know..?

Did you Know…?, คุณรู้หรือไม่ ดู, ย้อนหลัง, รายการ, ดูย้อนหลัง, ตอนล่าสุด, ทุกตอน, คลิปวีดีโอ, แก้ปวด, ยา,

ยาแก้ปวดทำงานยังไง, พาราเซตามอล,

มา move on กันเถอะ

              

การจมปลัก กักเราไว้กับความกังวล ความเป็นทุกข์เป็นท้อ กับปัญหา ปัญหาคำคำนี้ใครๆเขาก็พบเจอกันนะ เป็นสิ่งที่ทุกคนต้องเผชิญ ไม่ว่าจะเรื่องการเรียน เรื่องงานการเงิน ครอบครัว เพื่อน เรื่องความรัก  ไม่มีใครหลีกเลี่ยงได้แน่นอน จะแก้ยังไงก็รู้สึกว่าแย่ ต้องพ่ายแพ้ ท้อแท้แล้วชีวิตนี้ คิดไปก็เป็นทุกข์ จะหนีไปไกลแค่ไหนมันก็หนีไม่พ้น เป็นกังวลเป็นคนไร้ความสุขอยู่แบบนั้น การ move on ให้ได้เร็วที่สุด จึงเป็นสิ่งที่เราต้องทำให้ได้

สิ่งแรกเริ่มเลย เมื่อเกิดปัญหา สติและปัญญาคือสิ่งสำคัญในเวลานี้ อย่าเพิ่งโทษใครๆ อย่าได้หาคนผิด โดยเฉพาะตัวเราเอง เพราะปัญหามันย่อมก่อเกิดจากหลากหลายมิติ มีองค์ประกอบหลายอย่างมากองไว้รวมกัน ถ้าเราจะหาคนผิดในตอนที่เราวิตก หงุดหงิด สติแตก ความคิดวิเคราะห์มันย่อมผิดพลาดได้ง่ายๆเลย นอกจากจะแก้อะไรไม่ได้แล้ว มันยิ่งจะสร้างปัญหาเพิ่มตามมาด้วย ฉะนั้นการจะสยบปัญหา เราต้องให้สติปัญญาเท่านั้น

เมื่อเราต้องการจะ move on จากเรื่องแย่ๆเราติดกับพลังงานลบ เราก็ควรหาพลังงานบวกให้กับตัวเราเอง ก่อนอื่น เราต้องคิดก่อนว่า มีอะไรบ้างที่ทำให้ชีวิตเรามีความสุขบ้าง เพราะต้องยอมรับว่าแต่ละคนนั้น มีความสุขความชื่นชอบที่แตกต่างกัน บางคนชอบเงียบๆอยู่กับธรรมชาติ ก็ทำให้ชีวิตมีความสงบสุขได้ เราก็ใช้ชีวิตอยู่กับสิ่งนี้ หรือบางคนชอบ ออกไปกินไปหาที่เที่ยว ได้ชิมช๊อปใช้กับเพื่อนๆ ก็ทำให้ชีวิตคลายความทุกข์ไปได้ เราก็ทำตามใจตัวเองไป ถึงเวลานี้เราต้องแคร์ตัวเราเองก่อน ดูแลตัวเองให้ได้ก่อน เพราะคนอื่นทำร้ายเรามามากพอแล้ว เราอย่ามารังแกซ้ำ เราจะไม่ย่ำ ไม่แย่ไปมากกว่านี้ เศร้าไปก็ไร้ประโยชน์ แถมมันจะเพิ่มโทษให้ตัวเราอีก ถึงเวลานี้ความหยุดทำร้ายตัวเองก่อน

 การใช้ชีวิตจริงๆง่ายมาก แค่เรามีคาถานี้ติดตัว ชีวิตเราก็จะสุขสงบ move on จากทุกสิ่งได้ง่ายๆ คาถามี อยู่ว่า เราจงเป็นผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน

ผู้รู้ คือ รู้ว่ามันคือสัจธรรม ว่าความจริงของชีวิต มันมีเกิดขึ้นได้ เดี๋ยวมันก็มีดับไป เหมือนเมื่อมีรัก เดี๋ยวมันก็ต้องหมดรักไป ถ้าเขาจะรัก ชั่วดีมีจนเขาก็รัก แต่ถ้าเขาไม่รัก จะดูดีมีฐานะเขาก็ไม่รัก รู้ว่าไม่มีอะไรจริงแท้แน่นอนในชีวิตของมนุษย์เรา

ผู้ตื่น คือ ตื่นจากความหลงผิดทั้งปวง มีสติ มีสมาธิ ใช้ปัญญาในการดำเนินชีวิต รู้เท่าทันความรู้สึกนึกคิดของตัวเองตลอดเวลา

ผู้เบิกบาน คือการทำตัวเองให้ห่างไกลจากความทุกข์ สร้างรอยยิ้มให้ตัวเอง ทำตัวให้สดชื่นแจ่มใส เริ่มจากตัวเราให้ได้ เพราะถ้าเราเปลี่ยนแปลงตัวเองยังไม่ได้ ก็อย่าได้หวังจะให้คนอื่นมีชีวิตที่เรากำหนดให้เลย

ค่อยๆคิดไปละนิด สร้างไปทีละอย่าง เพราะทุกอย่างที่สำเร็จแล้ว ต้นกำเนิดก็มาจากฟันเฟืองเล็กๆก่อนทั้งนั้น จงเป็นผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน บอกตัวเอง สะกดจิตตัวเองให้ได้ แล้วเราจะ move on จากสิ่งเหล่านั้นออกมาได้แน่นอน

เตรียมตัวอย่างไรเมื่อลูกถึงวัยที่จะต้องเข้าโรงเรียน

เชื่อว่า พ่อ แม่ ทุกคน ต้องเป็นกังวล เมื่อวันหนึ่ง ถึงเวลา ที่ลูกน้อยต้องไปโรงเรียน ด้วยความที่ลูกยังเล็ก ยังช่วยเหลือตัวเองไม่ค่อยได้ และด้วยความเป็น สารพัด ต่าง ๆ นานา พ่อ แม่ บางคนถึงขนาด ต้องไปเฝ้าลูกถึงโรงเรียนกันเลยทีเดียว

สิ่งที่พ่อแม่ควรทำ

⦁ ต้องหาโรงเรียน ที่มีความน่าเชื่อถือได้ อยู่ไม่ไกลบ้านจนเกินไป ไม่จำเป็นต้องเป็นโรงเรียนที่มีชื่อเสียงเป็นที่นิยมของคนทั่วไป เลือกโรงเรียนตามความเหมาะสมกับความสามารถในการจ่ายค่าเทอมของผู้ปกครอง ซึ่งโรงเรียนสมัยนี้มีให้เลือกเยอะ โดยที่ พ่อ แม่ ไปเยี่ยมชม ที่โรงเรียนก่อนได้ ไปดูบรรยากาศ การเรียนการสอน หรือ นโยบาย ของโรงเรียนว่าเป็นไปในทิศทางไหน อาหารการกิน เป็นอย่างไร โรงเรียนสะอาด ถูกสุขอนามัยหรือไม่
⦁ ฝึกการเตรียมความพร้อมให้กับลูก เช่น
⦁ ฝึกให้ลูกเลิกใช้ผ้าอ้อมสำเสร็จรูป โดยฝึกให้ลูกบอกทุกครั้งที่ปวดปัสสาวะ หรือ ปวดอุจาระ รวมทั้งฝึกให้เลิกขวดนม สำเร็จเด็กบางคนที่ยังกินขวดนม
⦁ ฝึกให้ลูกช่วยเหลือตัวเองเบื้องต้นได้ เช่น ใส่เสื้อผ้าเอง ติดกระดมเอง ใส่ถุงเท้ารองเท้าเอง กินข้าวเอง เข้าห้องน้ำเองได้
⦁ พ่อ แม่ ต้องคอยพูดกับลูกตั้งแต่เนิ่น ๆ ก่อนที่ลูกจะไปโรงเรียน
เพราะเด็กวัยนี้ ยังติดพ่อติดแม่ กลัว ไม่อยากจากพ่อแม่ โดยพูดให้ลูกมีความรู้สึกว่าไม่ได้โดนทิ้งหรือจากพ่อแม่ไปไหน บอกให้ลูกเข้าใจว่าไปโรงเรียนช่วง เวลาไหน ถึงเวลาไหน พอลูกกลับมาบ้านลูกก็จะได้เจอกับพ่อแม่นะ พูดให้ลูกมีความรู้สึกอยากไปโรงเรียน เช่น บอกว่าไปโรงเรียนแล้วจะมีเพื่อนเล่นเยอะนะ มีคุณครูใจดี ที่โรงเรียนสอนสนุกสนาม เอาชุดนักเรียนให้ลูกดู ว่าลูกจะได้ใส่ชุดแบบนี้นะ พยามเล่าถึงบรรยากาศสนุกๆ ในโรงเรียนให้ลูกฟัง
⦁ ให้กำลังใจลูกทุกวันพร้อมกับชมเชยลูก
เมื่อช่วงแรก ๆ ที่ลูกไปโรงเรียนแล้วร้องไห้บ้างในช่วงระยะแรก ๆ ถือว่าเป็นเรื่องปกติค่ะ พ่อแม่ไม่ต้องเป็นกังวล เพราะหลังจากลูกปรับตัวในการต้องไปโรงเรียนได้แล้ว ก็จะเลิกร้องไห้ งอแงเองค่ะ จะช้าหรือเร็วในการปรับตัวขึ้นอยู่กับเด็กแต่ละคน แต่คุณพ่อคุณแม่ต้องให้กำลังใจลูกในทุกๆวันนะค่ะ รวมทั้ง ชมเชยลูกเมื่อลูกปรับตัวได้ในการไปโรงเรียนค่ะ ลูกจะได้มีความรู้สึกภูมิใจ

ขยะรีไซเคิล…ขยะสร้างเงิน

เมื่อพูดถึงขยะ เชื่อว่าหลายๆคนต้องร้องยี้ แหยะ..สกปรก บลา..บลา.. ถ้าทุกคน มีความคิดแบบนี้ รับรองว่าขยะเป็นอันได้ล้นโลกกันแน่

คำว่า “ขยะ” ถึงแม้ว่าเป็นสิ่งที่ทุกคนไม่พึง ปรารถนา แต่หากทุกคนลองหยุดคิดสักนิดนึง ขยะมันก็มีประโยชน์ ในตัวของมัน

ก่อนอื่นเราต้องมาทำความรู้จักกับขยะรีไซเคลกันก่อน ว่ามันคืออะไร มีประโยชน์อย่างไรบ้าง แล้วทำไม ขยะถึงสร้างเงิน

ขยะรีไซเคล หมายถึง ของเสีย หรือ วัตุดิบที่เหลือใช้ ซึ่งสิ่งเหล่านี้สามารถนำมาใช้ได้อีก โดยการแปรรูปเป็นวัตถุดิบในกระบวนการผลิต เช่น กระดาษ ขวดปราสติก แก้ว กระป๋องเครื่องดื่มต่างๆ เป็นต้น ลองย้อนกลับไปคิดดูว่า ถ้าเราไม่มีกระบวนการนำของที่เหลือใช้กลับการผลิตใหม่ รับรองว่าข้าวของบนโลกใบนี้ก็จะแพงขึ้นเท่าตัว ซึ่งมันก็จะมีผลกระทบไปถึง ทรัพยากรป่าไม้ก็จะลดลง ถ้าเป็นเช่นนี้ โลกเราก็จะเพิ่มความร้อนขึ้นหลายเท่าตัวเป็นแน่

ขยะสร้างเงินอย่างไร เราสามารถทำขยะให้เป็นรายได้ ได้ บางคนอาจจะทำเพื่อเป็นรายได้เสริม หรือ รายได้หลักสำหรับบางคน เช่น ขับรถรับซื้อของเก่า ทำเป็นธุรกิจเปิดโรงงานรับซื้อของเก่า หรือโรงงานสำหรับแปรรูปขยะรีไซเคิล

เราเริ่มให้ความสำคัญกับขยะรีไซเคลได้อย่างไร คือไม่ยากเลย เราเริ่มต้นจากในบ้านเรานั่นแหละ เราต้องฝึกทุกคนในบ้านให้รู้จักที่จะแยกประเภทขยะให้เป็น ให้ถูกต้อง ขยะแบบไหนที่เราสามารถนำมารีไซเคลได้ โดยเฉพาะเด็กเล็กๆ เราเริ่มปลูกฝังเขาตั้งแต่เขายังเด็กอยู่ จนเขาได้ทำเป็นนิสัย ถ้าทุกคนร่วมมือ ร่วมใจกันให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ รับรองว่าโลกของเราจะน่าอยู่มากยิ่งขึ้นอย่างแน่นอน

เคล็ดลับง่ายๆของการสร้างบ้านให้มีความสุข ให้กับชีวิตคุณ

เราจะใช้มุมมองในการสื่อสารที่รวมเอาความเชื่อความศรัทธา มาหลอมรวม คู่ขนานไปกับหลักวิทยาศาสตร์ ไปด้วยพร้อมกัน จะว่าจับปลาสองมือก็ว่าได้ คือมือนึงเชื่อตามคำบอกเล่าสืบทอดแต่เนิ่นนานมา รุ่นปู่ย่าตายาย นานแค่ไหนก็ยังเชื่อแบบนั้น อีกมือ ก็น้อมนำเอาหลักวิทยาศาสตร์เข้ามาวิเคราะห์ พร้อมหลักเหตุและผลด้วย ซึ่งเราจะได้ทั้งความรู้และความสุขติดตัวไปด้วยเลย

ซึ่งเราการันตีไว้ตรงนี้เลยว่า เมื่อคุณมีความสุขกับชีวิตแล้ว สิ่งที่จะตามมาพร้อมความสุขนั้นมันจะยิ่งใหญ่ มากมายจนเกินกว่าที่คุณคุณจะจินตนาการไว้อย่างแน่นอน

วิถีชีวิตคือสิ่งที่เราจะต้องเผชิญ ซึ่งแน่นอนอยู่แล้วว่า การเกิด แก่ เจ็บ ตาย ความสุข ความเศร้า ความสมหวัง ผิดหวัง ดีใจ เสียใจ การมีรอยยิ้ม การร้องไห้ คือ วัฏจักร วงเวียนเป็นวงกลมของทุกคนบนโลกใบนี้ แล้วสิ่งไหนกันล่ะที่มนุษย์แบบเราๆจะไขว่คว้าเพื่อการการดำรงคงอยู่

ร้อยทั้งร้อยคือการมีชีวิตความเป็นอยู่ที่สุขสบาย ซึ่งก็ต้องยอมรับว่า การมีความสุขของแต่ละบุคคลนั้นต่างกัน บางคนอาจจะชอบอยู่คนเดียวก็มีความสุขได้ ส่วนบางคนจะมีความสุขเมื่ออยู่กันหลายคน ชอบอยู่กับคนหมู่มาก กับเพื่อนฝูง กับพ่อแม่พี่น้อง ก็ว่ากันไปลองสังเกตตัวเอง

ส่วนเทคนิคการสร้างความสุขที่เราจะแนะนำในตอนนี้คือ การสร้างความสุขที่เริ่มจากตัวเราเองก่อนเลย ซึ่งมันง่ายมากถ้าเราบังคับตัวเองได้
เริ่มต้นเลย คือยิ้มหวานๆให้ตัวเราในกระจกเลย การยิ้มนี่ง่ายที่สุดแล้วสำหรับการใช้ชีวิต แล้วตามหลักะวิทยาศาสตร์ รอยยิ้มคือยาชนิดนึงที่รักษาหลายโรคได้เลนนะ ตามนี้ รอยยิ้ม กับประโยชน์ที่ไม่น่าเชื่อ 5 ประการ

เมื่อเรายิ้มให้ตัวเองแล้ว หลังจากนี้ก็เริ่มสิ่งแวดล้อมใกล้ๆตัว การทำความสะอาดบ้าน การเก็บกวาด จัดบ้านให้น่าอยู่ ยิ่งในยุคโควิดที่ต้องอยู่บ้านเป็นส่วนใหญ่ การทำบ้านให้น่าอยู่คือสิ่งสำคัญเลย เมื่อเราทำบ้านให้น่าอยู่แล้ว สิ่งนี้ล่ะที่จะดึงเอาความสุขมาอยู่กับเรา อยู่ในบ้านของเราด้วย เน้นไว้ตรงนี้เลยว่า บ้านจะหลังเล็ก หลังใหญ่โต รึจะห้องเช่าๆแคบ ๆ จะแบบไหนก็สร้างความสุขให้กับตัวเราได้นะ อย่าไปกังวลเรื่องขนาด ความจริงที่สุดคือ คับที่อยู่ได้ คับใจอยู่ยาก

การเปิดประสาทสัมผัสทั้ง 5 มี รูป รส กลิ่น เสียง และการสัมผัส คือความสะอาด ความเป็นระเบียบ ความสวยงาม กลิ่นหอมๆ เสียงเพลงเบาๆ ล้วนคือตัวก่อบ่อให้เกิดความสุขทั้งนั้น

ย้ำว่าทุกที่ทุกห้องในบ้านสำคัญเท่า ๆ กัน แต่เราขอเริ่มที่ทำความสะอาดจากห้องน้ำก่อนเลย ห้องน้ำสะอาดแล้วควรจะมีกลิ่นหอมด้วยนะ เทคนิคนี้เลย เราจะผสมน้ำยาถูพื้นครึ่งฝา ผสมกับน้ำยาซักผ้าเล็กน้อย แล้วใส่น้ำเปล่าลงไป ใส่น้ำให้เกือบเต็มขวด ฟ๊อกกี้ แล้วเก็บไว้ฉีดห้องน้ำของเรา ฉีดแบบไหนก็ได้ อย่าให้โดนตัว อย่าให้เข้าตาเราก็พอ เคล็ดลับนี้ นอกจากจะทำให้ห้องน้ำของเราหอมแล้ว น้ำยานี้มันยังช่วยฆ่าเชื้อโรคได้ด้วยนะ ยุ่ง แมลงสาบก็จะไม่เข้ามาใช้ห้องน้ำร่วมกับเราด้วยเช่นกัน

มาต่อที่ห้องรับแขกหรือห้องนั่งเล่น มุมนี้ก็สำคัญ บางคนก็อาจจะจัดตามฮวงจุ้ย เพื่อเพิ่มความเป็นสิริมงคล ซึ่งก็แล้วแต่ความเชื่อของแต่ละบุคคล แต่ถ้าไม่คิดอะไรมาก เราก็เอาของที่เรามีอยู่ในบ้าน ไม่จำเป็นต้องของหรูหราอะไรมากมาย เช่น รูปถ่าย กรอบรูป ที่เรามีอยู่ เอามาประดับตกแต่งฝาบ้าน แล้วจัดให้เป็นระเรียบร้อย แค่นี้นี้ก็เพิ่มความสุขให้กับชีวิตมากมาย

ห้องครัว ถือเป็นห้องที่สำคัญมากอีกห้องหนึ่งของบ้าน เป็นห้องที่เราใช้ประกอบอาหาร เพราะฉะนั้นห้องครัวจึงจำเป็นที่จะต้องจัดให้สะอาด อากาศถ่ายเทได้สะดวก ของใช้วางให้เป็นสัดส่วนเรียบร้อย เพื่อที่จะได้ง่ายเวลาจะหยิบจับ เมื่อห้องครัวสะอาดเรียบร้อยแล้ว มันก็ทำให้เรามีความสุขแม้กระทั้งในเวลาประกอบอาหาร

ห้องนอน คือห้องที่ใช้สำหรับการพักผ่อนของร่างกายจริงๆ กับการที่เราใช้ร่างกายมาทั้ง เป็นห้องที่เราใช้นอนหลับ อย่างน้อย ก็ 6-8 ชม. ฉะนั้นเราจะทำอย่างไร ให้ห้องนอนเป็นห้องที่เรานอนแล้วหลับอย่างมีความสุขที่สุด โดยที่เราทำง่ายๆ แค่จัดให้มีความระเบียบเรียบร้อย อาจจะมีของที่มีคุณค่าทางจิตใจเรา หรือ ของชอบสะสม เช่น ตุ๊กตา หรือของน่ารักๆ และในห้องก็ควรจะมีกลิ่นหอมเบา ๆ โดยไม่จำเป็นต้องฉีดน้ำหอมให้ฉุด แค่กลิ่นน้ำยาซักผ้า จากผ้าห่ม ผ้าปูที่นอน ของเรานั่นเอง แค่นี้ ก็ทำให้เราหลับอย่างมีความสุขแล้วละ

ประโยชน์ของปลาแซลมอล และ การเลือกซื้อปลาแซลมอน

ประโยชน์ของปลาแซลมอน

ปลาแซลมอนนับว่าเป็นปลาที่มี แหล่งโปรตีนที่ประโยขน์ต่อการบริโภค นอกจากมีโปรตีนแล้ว ยังมีวิตามินต่าง ๆ ที่ร่างกายมนุษย์เราต้องการ โดยเฉพาะ ที่หลายๆคนพูดถึงนั่นคือ โอเมก้า 3 นั่นเอง ซึ่งส่วนใหญ่ มักนิยมนำมาทำเป็นอาหารให้เด็ก ๆ กิน เนื้อปลาของแซลมอน จะเป็นสีส้มอมแดง ซึ่งเกิดจากการสะสม ของสารแอสตาแซนทินซึ่งเป็นสารในกล้ามเนี้อ เม็ดสีนี้มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ ช่วยบำรุงสายตา และช่วยลดการดูดซึมไขมันเลวได้ดีด้วย นอกเหนือจากนี้ ปลาแซลมอนยังมี วิตามิน B วิตามิน D กรดไขมัน DHA และ EPA ซึ่งล้วนเป็นสารอาหาร ที่ขาดไม่ได้ ต่อการเจริญเติบโตของเด็ก ๆ

วิธีการเลือกปลาแซลมอน

เนื้อปลาแซลมอนจะอร่อยหรือไม่อร่อยนั้นไม่ได้ขึ้นอยู่กับ ฝีมือในการนำมาทำอาหารอย่างเดียวเท่านั้น แต่ต้องขึ้นอยู่กับเนื้อการเลือกปลาแซลมอนด้วย ดังนั้นเราต้องรู้เคล็ดลับในการเลือกซื้อปลาแซลมอนอย่างไร ที่จะได้เนื้อปลาที่สดใหม่ และเหมาะต่อการนำมาทำอารหารรับประทาน คือ หลัก ๆ จะต้องสังเกตที่เนื้อปลา จะต้องมีสิส้มอมแดง ลวดลายต้องชัดเจน หนังปลาต้องมีสีเงินสว่าง ภาพรวมของเนื้อปลาต้องดูฉ่ำ สดใหม่ และต้องสังเกตดูให้ดีด้วยว่า หนังปลาและเนื้อปลาจะต้องไม่หลุดลุ่ยออกจากกั

เคล็ดลับการเลือกถั่วงอก และ ประโยชน์ของถั่วงอก

วิธีการเลือกถั่วงอก

ควรเลือกต้นที่หัวสมบูรณ์ ไม่ขาวอวบอ้วนจนผิดธรรมชาติเกินไป และเลือกที่รากไม่ยาว สังเกตดูที่ เปลือกนอกถั่วมีปะปนอยู่บ้างหรือไม่ เพราะถั่วงอกที่โดนแช่สารฟอกสีจะทำให้เปลือกหลุดออกหมด ถ้าตกเย็นแล้วถั่วงอกยังขาวสดอยู่ ถือว่าค่อนข้างน่ากลัวว่าถั่วงอกนั้นน่าจะโดนแช่สารฟอกขาว และก่อนที่จะนำมาปรุงอาหารควรนำถั่วงอกมาแช่น้ำไว้สักพักก่อน และควรนำถั่วงอกมาปรุงให้สุก ไม่เหมาะกับการกินดิบ

แต่เพื่อความปลอดภัยในการกินถั่วงอก คือ การเพาะปลูกเอง ถ้าเราเพาะปลูกเอง สามารถกินดิบก็ได้เพราะปลอดภัยต่อร่างกายแน่นอน 100%  

ประโยชน์ของถั่วงอก

โดยทั่วไปถั่วงอกมาจาก ถั่วเหลือง ถั่วเขียว ถั่วดำ และถั่วลันเตา เลยทำให้ถั่วงอกมีวิตามินและเกลือแร่สูง เช่น วิตามิน B9 ถั่วงอกเป็นผักที่มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระสูง ช่วยทำให้ชุ่มชื้น ดูเปล่งปลั่ง ช่วยบำรุงกระดูกและฟันเนื่องจากถั่วงอกเป็นผักที่มีแคลเซียมสูง รับประทานถั่วงอกเป็นประจำจะช่วยในการชะลอวัย ต้านตานความแก่ เนื่องจากมีสาร Auxinon ออซินอน ที่มีคุณสมบัติช่วยให้คงสภาพความเป็นหนุ่มสาวไว้ได้นานยิ่งขึ้น